ท่าน ว.วชิรเมธี ดูสถานที่สร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
ท่าน ว.วชิรเมธี
ดูสถานที่ก่อสร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ภายในพุทธมณฑลอีสาน
จ.ขอนแก่น แนะต้องดูพินัยกรรมให้ชัดเจน และยึดถือตามพินัยกรรมที่ยุติ
จากกรณีที่นางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ อายุ 91 ปี น้องสาวพระเทพวิทยาคม
หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด
จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยหลานชาย และคณะกรรมการวัดบ้านไร่
เข้าพบอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อขอนำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านไร่
แต่อธิการบดีไปราชการ จึงมอบหมายให้นายธัญญา ภักดี ผอ.กองกลาง ม.ขอนแก่น
รับเรื่องไว้ ในขณะที่คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มข.ยืนยันว่า
คณะแพทย์จะดำเนินการทุกอย่างตามพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ.2560 นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์
นายกเทศมนตรีเมืองศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้นำ ท่าน ว วชิรเมธี พร้อมด้วย แพนเค้ก
เขมนิจ จามิกรณ์ ดาราดังช่อง 7
สี หรือ ศิลปินไทยหัวใจโพธิสัตว์ พร้อมคณะที่มาร่วมทอดผ้าป่ากตัญญู ณ
วัดป่ามหาวนาราม (บ้านโนนม่วง) ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาดูสถานที่เตรียมก่อสร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณที่อยู่ด้านทิศเหนือ
ภายในพุทธมณฑลอีสานขอนแก่น ริมถนนเลี่ยงเมือง บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ นายกเทศมนตรีเมืองศิลา กล่าวว่า
ตอนนี้การขอใช้สถานในบริเวณพุทธมณฑลอีสานขอนแก่นเพื่อดำเนินการเตรียมก่อสร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ไปที่จังหวัดขอนแก่น
และจังหวัดได้ดำเนินการไปที่ส่วนกลางตามขั้นตอนให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
ท่าน ว วชิรเมธี กล่าวว่า
หลวงพ่อคูณเป็นพระผู้ใหญ่เป็นพระมหาเถระที่น่ายกย่อง เพราะท่านเป็นพระผู้ให้
ดังนั้นจะนำสรีระสังขารของท่านมาฌาปนสถานที่พุทธมณฑลอีสานขอนแก่นถูกต้อง
และเหมาะสมอย่างมาก
เพราะครั้งสุดท้ายของท่านก็ให้กับลูกหลานที่เป็นนักศึกษาแพทย์ด้วยการเป็นครูใหญ่และอาจารย์ใหญ่ของคณะแพทยศาสตร์
ม.ขอนแก่น หลวงพ่อคูณจึงเป็นตัวอย่างบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม
สมัยท่านเป็นพระสงฆ์ที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
ท่านเป็นพระผู้ให้มาตลอดชีวิต ซึ่งท่านยึดสันโดษ สมถะ และเสียสละเพื่อมวลชน
ซึ่งท่านทำให้ชีวิตของตนเองมีประโยชน์กับผู้อื่น และสังคมมาโดยตลอด
ตามที่ท่านบอกว่า “ยิ่งเอามันยิ่งอด
ยิ่งให้ทั้งหมดมันยิ่งได้”
ท่าน ว วชิรเมธี กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้สถานที่พุทธมณฑลอีสานขอนแก่น
อาตมาเห็นว่าเหมาะสมอย่างมาก เพราะ 1.กว้างพอรองรับคลื่นมหาชน
2.ในการจัดงานต้องคำนึงถึงสมณะสารูป คือ ให้มีความเรียบง่าย
เหมาะควรเป็นงานของพระสงฆ์ 3.ต้องระมัดระวังในสรีระสังขารของท่าน
ซึ่งท่านเกรงมาโดยตลอดในเรื่องกลุ่มผลประโยชน์ที่จะมาหาประโยชน์กับสรีระสังขารของท่านในเชิงพาณิชย์
ซึ่งหลวงพ่อคูณจะเขียนล้อมหน้าล้อมหลังไว้หมดว่าอย่าให้ใครมาเอาประโยชน์กับสังขารของกู
“ดังนั้นต้องดูพินัยกรรมให้ชัดเจนและยึดถือตามพินัยกรรมที่ยุติ
หรือ เป็นฉบับสุดท้ายก็ต้องยึดฉบับนั้น
แต่ว่ามาดูสถานการณ์จริงแล้วมีความเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรอย่างไรก็ต้องไปปรึกษาหลวงพ่อพระผู้ใหญ่
ปรึกษานักปราชญ์ราชบัณฑิตของภาคอีสาน
เพราะหลวงพ่อคูณเปรียบเสมือนเสาหลักของภาคอีสาน แต่สุดท้ายที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดต้องไปดูเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณที่ระบุไว้ในพินัยกรรม
เรื่องจะเผาสรีระสังขารของท่านที่ไหน ไม่สำคัญ
แต่สำคัญที่ว่าทำเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของท่านหรือไม่
ซึ่งท่านไม่ต้องการให้วุ่นวายแต่ให้เกิดประโยชน์กับคนรุ่นหลัง" ท่าน ว
วชิรเมธี กล่าว
ท่าน ว วชิรเมธี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหลวงพ่อคูณเป็นคนของประชาชน
ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง
ดังนั้นสรีระสังขารของท่านจะฌาปนสถานที่ไหนจะต้องหารือร่วมกันกับคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นมาใหม่อีก
1 ชุด
โดยมีผู้เกี่ยวข้องยอมรับและมาหารือร่วมกันเพื่อหาข้อยุติ
โดยยึดตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณที่ระบุไว้ในพินัยกรรม
เพราะหลวงพ่อคูณเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ
ไม่ใช่จะมีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดจะมาอ้างสิทธิเป็นเจ้าของสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม เพราะหลวงพ่อคูณเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ
ไม่ใช่จะมีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดจะมาอ้างสิทธิเป็นเจ้าของสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
เพราะประชาชนคนไทยเคารพหลวงพ่อคูณเป็นส่วนมาก
ดังนั้นสรีระสังขารหลวงพ่อคูณหลังเสร็จสิ้นเป็นครูใหญ่หรืออาจารย์ใหญ่ไปแล้วจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องเป็นมติของคณะกรรมการกลางชุดใหม่ที่สังคมยอมรับได้เห็นสมควร
แต่หัวใจสำคัญที่หลวงพ่อคูณระบุไว้ในพินัยกรรมต้องไม่นำสรีระสังขารของท่านไปก่อประโยชน์สิทธิผลในเชิงส่วนตัว
หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะต้องนำเจตนารมณ์ของท่านที่ระบุไว้ในพินัยกรรมมาดำเนินการ
อย่างไรก็ตามงานฌาปนสถานหลวงพ่อคูณจะต้องอยู่ในรูปแบบที่ง่ายคือไม่สิ้นเปลืองให้สมกับเป็นงานของพระ
งาม คือ แต่ละสิ่งละอย่างจัดให้ดีอย่าให้เกิดความวุ่นวาย ธรรมดา คือ
เป็นเทศนาสุดท้ายของหลวงพ่อคูณที่สอนคนไทยอีกกัณฑ์หนึ่ง.
วิเคราะห์ข่าว ท่าน ว.วชิรเมธี
ดูสถานที่สร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ
จากที่ดิฉันได้อ่านข่าวด้านบนนี้ ได้เรียนรู้ว่า ถึงแม้หลวงพ่อคูณจะเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
เป็นที่รู้จักเคารพกันอย่างแพร่หลาย การจัดงานงานฌาปนสถานหลวงพ่อคูณถูกจัดให้อยู่รูปแบบที่ง่าย
การเตรียมก่อสร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณได้ถูกจัดไปตามความประสงค์ในพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ
และไม่ต้องนำสรีระสังขารของท่านไปก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตัว และเมื่อเผาเสร็จแล้ว อัฐิ
เถ้าถ่านและเศษอังคารทั้งหมดให้คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง
จ.หนองคาย แสดงว่าหลวงพ่อคูณไม่ต้องการให้เก็บอะไรที่เกี่ยวกับท่านไว้แม้แต่ชิ้นเดียว
ให้เป็นไปตามพินัยกรรมที่หลวงพ่อคูณระบุไว้ทุกประการ
ที่มา: ไทยรัฐ. (2560). ท่าน ว.วชิรเมธี
ดูสถานที่สร้างสถานที่ฌาปนสถานสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ. สืบค้นเมื่อวันที่ 1
มีนาคม 2560, จากเว็บไซต์ https://www.thairath.co.th/content/868360
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น